กาแฟดริป

กาแฟดริป นั้นมีประโยชน์หลายอย่างต่อร่างการ เพราะเป็น กาแฟ ที่ไม่มีการปรุ่งแต่ ผสมผสานกันอะไร มีความคล้ายกับ กาแฟดำ ที่ไม่มีการปรุ่งแต่อะไรเพิ่มเติม ไม่มีน้ำตาล นม หรือครีม ดีต่อสุขภาพ ประหยัดเวลา ประหยัดเงิน มีวิธีชงที่ง่าย กาแฟดริป คืออะไร กาแฟที่ชงด้วยวิธีการง่าย ๆ เป็นการชงกาแฟผ่านตัวกรอง คือการใช้น้ำเทผ่านกาแฟคั่วบดลงในตัวกรอง เพื่อให้น้ำที่ไหลผ่านสกัดเอาน้ำมันกาแฟที่ให้รสชาติต่างๆออกมาจากกาแฟ มีการเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กาแฟฟิลเตอร์ (filter coffee) หรืออีกชื่อที่เรียกกันว่า Pour-over แต่ส่วนใหญ่จะเรียกติดปากว่า Drip สำหรับดั่งเดิมนั้นการดริปกาแฟใช้ถุงผ้าเป็นตัวกรองกาแฟ เป็นเทคนิคที่ใช้กันโดยทั่วไปในยุโรปตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 และที่อื่นๆ มานานแล้ว แต่เพิ่งกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในชุมนม specialty coffee แต่สำหรับกาแฟดริปแบบใช้กระดาษกรองเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1908 โดยชาวเยอรมันผู้นำกระดาษซับน้ำหมึกของลูกชายมาทดลองกรองกาแฟเนื่องจากมักมีปัญหากับผงกาแฟเล็กๆที่มักหลุดออกมาอยู่ในแก้วกาแฟ จากกาแฟแบบ Espresso หรือการใช้ถุงผ้าในการกรองซึ่งยากต่อการทำความสะอาด หลังจากนั้นการดริปกาแฟด้วยกระดาษกรองจึงเป็นที่แพร่หลายเป็นต้นมา
เป็นที่นิยม
จะเป็นที่นิยมกันมากในทวีป ยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น และสแกนดิเนเวีย ในอดีตคนที่ดื่มกาแฟดริปนั้นจะถือเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง ต้องการรับรสชาติของกาแฟนั้นๆ และแต่ละทวีป ประเทศก็จะมีกลิ่นที่แต่ต่างกันออกไป เช่น
- Colombians โคลอมเบียบางตัวจะมีกลิ่นแอปเปิล
- Ethiopia เอธิโอเปียอาจมีกลิ่นสตรอว์เบอร์รี
- Brazil บราซิลมีกลิ่นช็อกโกแลต

ประเภทของกาแฟดริป
กาแฟดริปแบบสด
- กาแฟดริป แบบชงสดๆ โดยจะนำกาแฟคั่วบดที่บดสดๆมาผ่านน้ำร้อน ซึ่งเราจะนำกาแฟบดมาใส่กระดาษเพื่อที่กรองเอากากแยกไว้ด้านบน แล้วปล่อยน้ำร้อนให้ไหลผ่านกาแฟหยดลงภาชนะที่เราเตรียมไว้ด้านล่าง ถือเป็นการชงแบบคลาสสิคสุดๆ ซึ่งการชงกาแฟในลักษณะนี้ น้ำร้อนจะค่อยๆผ่านกาแฟคั่วบด แล้วน้ำร้อนที่ไหลจะนำเอาน้ำมัน และส่วนประกอบสำคัญจากกาแฟออกมา ทำให้ได้กลิ่นที่ชัด หอม และจะได้รสชาติที่เป็นของสายพันธุ์นั้น
กาแฟดริปแบบซองสำเร็จรูป
- ซึ่งจะมีลักษณะการชง คล้ายๆกับการชงชา จะเป็นกระดาษที่มีตัวกรองในตัว เมื่อนำไปใส่แก้วน้ำร้อนกาแฟก็เริ่มมีกลิ่นหอม และสีที่ชัดเจน โดยถุงกระดาษกระจะหุ่มกากกาแฟไว้ในนั้น กาแฟดริป แบบซองจะไม่มีการผสมน้ำตาล นมเลย จึงทำให้สะดวกต่อการชง เสียเวลาไม่นานก็ได้ดื่มกาแฟดริปได้ง่ายๆเลย กาแฟชงสดตามร้านนิยมใส่นมและน้ำตาลเพื่อให้ดื่มง่ายขึ้น
แต่ในปัจจุบันนั้นมี กาแฟดริป สำเร็จรูปขายในรูปแบบซองแล้ว ชงง่าย เป็นกาแฟแบบไม่มีน้ำตาลผสม ซึ่งกาแฟดริปมีอุปกรณ์ไม่ยุ่งยาก หาได้ทั่วไป ซึ่งจะมีทั้งดริปแบบสดๆ และแบบกึ่งสำเร็จรูป แบบดริปสดๆ จะมีความหอม กลิ่นและรสชาติชัดเจนมากกว่าแบบซองกาแฟดริป
การชงกาแฟดริป

อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการชงกาแฟดริป
- Dripper หรืออุปกรณ์ดริปกาแฟ
- Drip Kettle หรือกาดริปกาแฟ
- Timer หรือ ที่จับเวลา
- Coffee Grinder หรือเครื่องบดกาแฟ – ไม่จำเป็นถ้าใช้กาแฟคั่วบด
- ตราชั่งหรืออุปกรณ์ตวง
- ช้อนสำหรับคน
ขั้นตอนการชงกาแฟดริป
- ต้มน้ำ ให้ได้อุณหภูมิ 92 - 95 องศาเซลเซียส
- ทำให้กระดาษกรองติดกับดริปโดยการ เทน้ำใส่กระดาษกรองให้ชุ่มรอบๆ
- บดเมล็ดกาแฟ 30 กรัม ระดับการบดน้ำตาลทราย
- นำเมล็ดกาแฟที่บดใส่ลงไปที่ดริปเปอร์ที่มีกระดาษกรอง
- เทน้ำร้อนลงบนกาแฟ ให้น้ำหนักขึ้น 60 กรัม จากนั้นรอ 30 วินาที ทุกครั้งที่เทพยายามเทให้โดนทั่วๆกาแฟ
- เมื่อครบ 30 วินาที ให้เทดริปแบบเดิมลงไป จนน้ำหนักขึ้นเป็น 210 กรัม แล้วรอ 30 วินาที
- เมื่อครบ 30 วินาที ให้เทดริปแบบเดิมลงไป จนน้ำหนักขึ้นเป็น 360 กรัม แล้วรอ 30 วินาที
- เมื่อครบ 30 วินาที ให้เทดริปแบบเดิมลงไป จนน้ำหนักขึ้นเป็น 500 กรัม แล้วรอให้นำไหลจนหมด
- พร้อมเสิร์ฟ
ระดับการบด
- บดหยาบมาก กาแฟบดระดับที่เหมาะที่สุดสำหรับกาแฟ Cold Brew
- บดหยาบ กาแฟบดระดับที่เหมาะที่สุดสำหรับเฟรนช์เพรส
- บดหยาบปานกลาง กาแฟบดระดับไหนเหมาะที่สุดสำหรับเครื่องดริป Chemex
- บดปานกลาง กาแฟบดระดับไหนเหมาะที่สุดสำหรับเครื่องดริปกาแฟก้นแบน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเริ่มต้นทดลองชงกาแฟ
- บดละเอียดปานกลาง กาแฟบดระดับที่เหมาะที่สุดสำหรับดริปกาแฟทั่วไปและ แอโรเพรส
- บดละเอียด เป็นขนาดของผงกาแฟที่เป็นที่นิยมโดยทั่วไป โดยส่วนมากกาแฟที่อยู่ในห้างนั้นจะบดระดับนี้
ขนาดเทียบเท่ากับ
- เมล็ดพริกไทย
- เกลือทะเล
- เม็ดทรายหยาบ
- เม็ดทรายทั่วไป
- เกลือบริโภค
- ละเอียดมากกว่าเกลือบริโภคเล็กน้อย
ขั้นตอนการชง
- กาแฟสกัดเย็น
- เฟรนช์เพรส
- เพอร์โคเลเตอร์
- คอฟฟี่คัปปิ้ง
- การชงแบบเวียดนาม
- การชงแบบเชเม็กซ์
- เคลฟเวอร์ดริปเปอร์
- เครื่องชงแบบคาเฟ่โซโล่
- การชงแบบไซฟ่อน
- การดริปด้วยดริปเปอร์ก้นแบ
- เครื่องชงกาแฟแอโรเพรส (Aeropress) (ด้วยการชง 3 นาที หรือมากกว่า)
- การดริปกาแฟโดยใช้ที่กรองแบบโคนกรวยแหลม
- เครื่องชงกาแฟแอโรเพรส (Aeropress) (ด้วยการชง 2-3 นาที)
- โมก้าพอท (เครื่องชงเอสเพรสโซแบบหม้อต้ม)
- การดริปกาแฟโดยใช้ที่กรองแบบผ้ากรองด้ามจับไม้
- เอสเพรสโซ
- แอโรเพรส(ด้วยการชง 1 นาที)