นมสดกับนมข้นจืด เลือกใช้ยังไงให้ถูกต้อง ?

วันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับวิธีการเลือกใช้ นมสดกับนมข้นจืด เลือกใช้ยังไงให้ถูกต้อง ? ซึ่งเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนสงสัย โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้ประจำ วันนี้เรามีคำตอบ ไปดูกันเลย

นมสด (Fresh Milk)

นมสด หรือนมพาสเจอร์ไรซ์ คือ นมวัวแท้ 100% ที่นำมาผ่านความร้อนต่ำประมาณ 62-63 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 30 นาที เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด และไม่นำมาผ่านกระบวนการผลิตอื่น ๆ ไม่ปรุงแต่งสารอาหารเพิ่มเติม จึงให้ได้ “นมสด” ที่สดใหม่ให้ความหอมมัน และรสชาติที่เป็นนมวัวแบบธรรมชาติที่สุด ที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งจึงมีอายุการเก็บรักษาเพียง 3-5 วัน ไม่ควรเกินกว่านี้ และควรต้องแช่เย็นในอุณหภูมิที่ต่ำ หรือไม่เกิน 0-4 องศาเซลเซียส ทั้งนี้อาจหมายถึงนมจากพืช ที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งสารอื่น ๆ เช่นกัน นมถั่วเหลือง นมข้าวโอ๊ต นมอัลมอนด์ เป็นต้น

นมข้นจืด (Evaporated Milk)

นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากนมสด โดยจะเป็นการนำนมสดแท้ ๆ มาผ่านกระบวนการผลิตที่ต้องระเหยเอาน้ำออกไปบางส่วน หรืออาจมากถึง 60% จึงทำให้ได้นมที่มีความข้นมากขึ้น แต่จะไม่มีความเหนียวหนืด และไม่มีการเติมสารเพิ่มความหวานอื่น ๆ ลงไป จึงทำให้ได้ “นมข้นจืด” ที่ไม่มีความหวาน มีความข้นความมันมากยิ่งขึ้น และจะมีกลิ่นและรสชาติที่ต่างออกไปจากนมสด

นมสด VS นมข้นจืด ต่างกันยังไง ?

นมสด

นมสด : มีสีขาว ตามธรรมชาติ
สตรีมเป็นฟองนมได้
ชงแล้วไม่กลบกลิ่นชา กาแฟ
ใช้ชงเครื่องดื่มได้ทั้งเมนูร้อน เมนูเย็น
บรรจุทั้งในรูปแบบขวด, กล่อง, แกลลอน
มีกลิ่นและรสชาติที่เป็นธรรมชาติ มีความมันพอดี
เหมาะกับเมนูที่ใช้เมล็ดกาแฟคั่วอ่อน -คั่วกลาง

นมข้นจืด

นมข้นจืด : มีสีขาวออกเหลือง
บรรจุในรูปแบบกระป๋อง
นำมาสตรีมฟองนมไม่ได้
เน้นชงกับเครื่องดื่มเมนูเย็น
เหมาะกับเมนูที่ใช้เมล็ดกาแฟคั่วเข้ม
มีกลิ่น และรสชาติของนมที่เข้มข้น ให้ความมัน
ชงแล้วอาจทำให้กลบกลิ่น ชากาแฟได้ถ้าใช้ในปริมาณเยอะ ๆ

นมสดกับนมข้นจืด นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากนมวัวเหมือนกัน ต่างกันตรงกระบวนการผลิตโดยที่นมสดจะผ่านการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ แต่นมข้นจืดจะต้องมีการระเหยน้ำออกไปบางส่วนด้วย เพื่อให้มีความมันเข้มข้นยิ่งขึ้น จึงให้กลิ่นและรสชาติที่ต่างกัน แต่จะไม่มีความหวานเหมือนกัน