moka pot
การชงแบบ mokapot นั้นถือว่าเข้มถึงใจ ถ้าเราต้มนานเท่าไรความเข้มยิ่งดุ และถ้าเราเลือเมล็ดกาแฟคั่วเข้มด้วยละก็ไม่ต้องพูดถึงเลย ดุดันถึงใจแน่นอน แต่การชงแบบ moka pot นั้นจะแตกต่างจากการชงแบบวิธีอื่นคือจะใช้แรงดันที่น้อย ทำให้ได้น้ำกาแฟไม่เข้มค้นเหมือนการชงแบบเอสเพรสโซ่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ทำให้ด้อยกว่าการชงแบบอื่นเลย

Moka Pot คืออะไร
Moka Pot ได้รับสิทธิบัตรอุปกรณ์ เมื่อปี 1993 ซึ่งเริ่มต้นมาจากนักประดิษฐ์ชื่อ Alfonso Bialetti เป็นผู้คิดค้น อุปกรณ์ส่วนใหญ่ทำจากอลูมิเนียม MokaPot ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ใช้ง่ายที่สุดในการชงกาแฟ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในประเทศอิตาลี Moka Pot มีหลักการในการสกัดกาแฟที่คล้ายกับการชงเอสเปรสโซ่ เพราะเป็นการชงแบบใช้แรงดันจากน้ำร้อนที่ถูกต้มจนเดือด ซึ่งวิธีการชงทั่วไป หากใช้น้ำที่มีอุณหภูมิสูงมาก อุปกรณ์จะสกัดความขมของกาแฟมามากเกินไป
ส่วนประกอบ mokkapot มี 3 ส่วน ๆด้แก่ ด้านล่างมีเหยือกใส่น้ำ ส่วนที่ 2 ไว้ใส่กาแฟผง ส่วนที่ 3 จะเป็นส่วนหัว ส่วนนี้จะได้กาแฟที่ชงเรียบร้อยแล้ว mokka pot จะเป็นการชงง่ายๆเลย แต่ต้องมีอุปกรณ์เสริม อย่างเตาแก็สเพื่อให้ความร้อน หรือเตาไฟฟ้าก็ได้
The mocha consists of 3 parts, below is a jug of water. The second part is for the coffee powder. and the third one is the header This part will get brewed coffee. The mokka pot is a simple brew. But must have equipment such as a gas stove for heating or an electric stove.
การชงแบบ Moka pot

อุปกรณ์กาชงแบบ Moka Pot
- Moka Pot
- เตาไฟฟ้าหรือเตาแก๊สที่สามารถให้ความร้อนได้
- เมล็ดกาแฟหยาบ ความละเอียด (Medium fine grind) หรือขนาดประมาณเกลือ
- เครื่องบดกาแฟ
ขั้นตอนการชงกาแฟแบบ Moka Pot
- เตรียมกาแฟ ที่ทำการบดระดับเม็ดเกลือแล้ว ใส่กาแฟก่อนที่จะชง โดยเกลี่ยให้กาแฟบดอยู่ในระดับเดียวกัน
- ต้มน้ำสะอาดให้ร้อน เหมาะสมกับการชงกาแฟ ซึ่งข้อดีของการใช้น้ำร้อนในการชงคือ ช่วยให้ระยะเวลาที่ กาชงกาแฟ ตั้งอยู่บนเตาสั้นลง และยังทำให้ความขมลดลงอีกด้วย
- เติมน้ำร้อนลงในส่วนล่างของ หม้อต้มกาแฟ จนถึงระดับต่ำกว่าวาล์วเล็กน้อย ถ้าเกินระดับวาล์ว จะเกิดแรงดันที่มากเกินไป
- ประกอบ Moka Pot เข้าด้วยกัน จากนั้นใส่ตะแกรงกาแฟลงไปใน Moka Pot
- เปิดเตาโดยใช้ไฟอ่อน หรือ ไฟกลาง แล้วตั้งหม้อ Moka Pot ลงบนเตา ทำการเปิดฝาทิ้งไว้ เมื่อน้ำในช่องด้านล่างเริ่มเดือด ยิ่งต้มเร็วและร้อนมากเท่าไหร่ ความดันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น การชงก็จะรวดเร็วขึ้น และความดันจากไอน้ำ จะดันน้ำผ่านท่อที่ส่งไปยังตะแกรงกาแฟ
- เมื่อถึงจุดเดือดระดับหนึ่ง กาแฟจะเริ่มไหลออกมา ที่ช่องด้านบน ต้องฟังเสียงเหมือนเครื่องหยุดทำงาน คุณถึงจะปิดเตาและหยุดชง เพราะหากทิ้งไว้นานกว่านั้น กาแฟจะมีรสขมจัดเกินไปได้
- หลังจากนั้น ให้เปิดน้ำเย็นไหลผ่านฐาน ของ หม้อต้มกาแฟ เพื่อให้อุณหภูมิแรงดันลดลง
- ดื่มกาแฟสไตล์อิตาลีได้เลย
ไม่ใช้กาแฟคั่วเข้ม
ควรหลีกเลี่ยงเมล็ดกาแฟคั่วเข้ม ใช้เมล็ดกาแฟเอสเปรสโซ่คั่วอ่อน เพราะรสชาติจะเข้มเกินไป ส่วนระดับการบด ให้บดละเอียดเหมือนเกลือ แต่ไม่ละเอียดมากจนเกินไป เพราะมันจะส่งผลถึงรสชาติที่มีรสขมมากอีกด้วย
การดูแลรักษา
การชงกาแฟแบบ mokapot นั้นชงง่ายแล้ว การดูแลรักษาง่ายกว่า โดยแยกส่วนของ mokapot แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำอุ่นเท่านั้นเอง ก็ถือว่าเสร็จ ข้อควรระวัง อย่าล้างด้วยสบู หรือน้ำยาล้างจานเด็ดขาด เพราะจะทำให้ mokapot เปลี่ยนสี และมีกลิ่นตามมา
Making a MokaPot is easy. Easier to maintain by splitting the mokapot and rinsing it with plain or warm water only. It is considered finished. Warning Do not wash with soap. Do not use dishwashing liquid or dishwashing liquid. Because it will change the color and smell.